โปรแกรมเมอร์ดีไซน์
  • ไทย
  • english
เข้าสู่ระบบ
  • หน้าหลัก
  • หลักสูตร
  • สินค้า
  • บทเรียน
  • บทความ
  • นักพัฒนา
  • กระทู้
ลาก่อน Windows 7 สิ้นอายุขัยวันนี้ 14 ม.ค. ไม่มีแพตช์ความปลอดภัยอีกแล้ว
  • หน้าหลัก
  • Contents
  • ลาก่อน Windows 7 สิ้นอายุขัยวันนี้ 14 ม.ค. ไม่มีแพตช์ความปลอดภัยอีกแล้ว

0 อ่าน

0 คน

แก้ไข ลบ


ตามที่ไมโครซอฟท์ประกาศล่วงหน้าไว้นานหลายปี วันนี้ 14 มกราคม 2020 ถือเป็นวันสุดท้ายของระบบปฏิบัติการ Windows 7

ไมโครซอฟท์จะออกแพตช์สุดท้ายของ Windows 7 (ตามรอบ Patch Tuesday คือวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้ของบ้านเรา) หลังจากนั้นแล้ว Windows 7 ยังใช้งานได้ตามปกติ แต่จะไม่มีแพตช์ความปลอดภัยให้อีกแล้ว นั่นแปลว่าหากเกิดมัลแวร์ใหม่ๆ (เช่น กรณีของ WannaCry/WannaCryptผู้ใช้ Windows 7 จะมีความเสี่ยงทันที)

Windows 7 ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ปัจจุบันมีอายุเกิน 10 ปีแล้ว (ออกเดือนตุลาคม 2009) และมีอายุขัยของมันที่ต้องสิ้นสุดลง

ทางออกที่เป็นไปได้ของผู้ใช้ Windows 7

  • หากอยู่ในภาวะที่ทำได้ (เช่น ไม่มีปัญหาไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์เฉพาะบางตัว) ควรอัพเกรดเป็นระบบปฏิบัติการที่ใหม่กว่าอย่าง Windows 10 (ซึ่งไมโครซอฟท์ยังเปิดช่องให้อัพเกรดฟรี) หรือย้ายไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่นอย่าง Linux
  • หากไม่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ อาจพิจารณาซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่เป็น Windows 10 แทน ซึ่งทันสมัยกว่าคอมพิวเตอร์ยุค Windows 7 มีฟีเจอร์ฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ อย่าง SSD หรือกล้อง IR และปัจจุบันก็มีราคาไม่แพงมากแล้ว (ตัวอย่างเช่น โน้ตบุ๊กราคา 9,990 บาทก็แถม Windows 10 มาให้เลย)
  • ถ้าไม่เหลือทางออกแล้วจริงๆ ควรใช้ Windows 7 ต่อไปอย่างระมัดระวัง เช่น ลงแพตช์ให้ครบจนถึงตัวสุดท้ายวันนี้, เปิดการทำงานของ UAC, ใช้บัญชีที่ไม่ใช่แอดมินเป็นบัญชีหลัก, ลงแอนตี้ไวรัสที่ยังซัพพอร์ต (Microsoft Security Essentials ไม่ซัพพอร์ตแล้ว จบอายุพร้อม Windows 7), เลือกเข้าเฉพาะเว็บที่เชื่อถือได้ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้การันตีว่า Windows 7 ยังปลอดภัย 100%

พีซีองค์กรคือกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุด

ผู้ใช้งาน Windows 7 บนพีซีส่วนตัว คงสามารถตัดสินใจได้เองว่าจะอัพเกรดระบบปฏิบัติการ, ซื้อเครื่องใหม่ หรือทนใช้งานต่อไป และแบกรับความเสี่ยงกันเอาเอง

แต่ผู้ใช้ Windows 7 บนพีซีขององค์กร มีชะตาชีวิตที่ขึ้นกับนโยบายของแต่ละองค์กรว่าจะอัพเกรดหรือซื้อเครื่องใหม่ให้หรือไม่ ซึ่งในมุมของผู้กำหนดนโยบายด้านไอทีองค์กร (ไม่ว่าจะเป็น CIO หรือ IT Manager) ต้องประเมินความเสี่ยงกันเอาเองว่า หากไม่อัพเกรด Windows 7 แล้วจะเจอภัยคุกคามระดับไหน โดยเฉพาะในยุคที่การโจมตีเถื่อนขึ้นทุกวัน และข้อมูลความลับภายในองค์กรเป็นสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งกว่าฮาร์ดแวร์

เราเห็นข่าว Sony Pictures ถูกแฮ็กระบบครั้งใหญ่ในปี 2014 ถึงขั้นโดนขโมยไฟล์หนังที่ยังไม่ออกฉายมาปล่อยในอินเทอร์เน็ต และมีกรณีศึกษานับไม่ถ้วนขององค์กรที่ระบบไอทีโดนโจมตี จนรัฐบาลท้องถิ่นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเป็นตัวอย่างขององค์กรที่ละเลยเรื่องความปลอดภัย จนเกิดผลกระทบต่อธุรกิจอย่างรุนแรง

องค์กรที่ใส่ใจเรื่องนี้คงดำเนินการย้ายจาก Windows 7 เป็น Windows 10 กันไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนองค์กรที่ยังไม่ตัดสินใจหรือยังติดขัดเรื่องใดอยู่ ก็ได้ขออวยพรให้โชคดี

สร้างเมื่อ :2020-01-16 13:58:51

แหล่งที่มา: https://www.blognone.com/node/114123


All Comments (0)
No Comments

ปก

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

Developer Mindset

coding วิชาแห่งโลกอนาคต

เขียนแอพมือถือเองก็ทำได้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสักบาท

5 เทรนด์มาแรง!!! 2020 ที่นักพัฒนาแอพต้องรู้

ปูทางสู่สตรีมมิ่งเพลง TikTok ได้ดีลกับเอเจนซี่ค่ายเพลงและศิลปินอิสระ

MIT สร้างปัญญาประดิษฐ์ทำแผนที่จากภาพดาวเทียม ชี้น่าใช้กับประเทศไทยเพราะถนนเปลี่ยนบ่อยแถมข้อมูลไม่อัพเดต

Google Search ทำฟีเจอร์ Collections รวบรวมประวัติค้นหา ลดเวลาค้นหาใหม่

Windows Calculator วาดกราฟจากสมการคณิตศาสตร์ได้แล้ว

พุทธิพงษ์ เยือน Facebook หารือข่าวปลอม, เนื้อหาผิดกฎหมาย ชี้เป็นปัญหาหนักในไทย

TIOBE ประกาศภาษา C เป็นภาษาแห่งปี 2019 ระบุความนิยมเพิ่มเพราะ IoT

ดูทั้งหมด >>

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

  • ReactNative
  • yii 2 framework
  • CocoaApp
  • Adobe Flash
  • Bootstrap
  • ActionScript2
  • xamarin
  • JS
  • jquery
  • React
  • การออกแบบ
  • เขียนแอพมือถือ

เกี่ยวกับเรา

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • นโยบายบริการ
  • นโยบายส่วนตัว

น่าสนใจ

  • บทความ
  • Benz_room072
  • โฆษณาทั้งหมด

Copyright 2018 @ Prateep Suayngarm made by Yii 2 framework