Software
ซอฟแวร์ เป็นองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ที่เราไม่สามารถสัมผัสจับต้องได้โดยตรง เป็นชุดคำสั่งหรือโปรแกรม (Program) ที่เขียนขึ้นเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์ จึงเป็นเสมือนตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ให้สามารถเข้าใจกันได้
ซอฟต์แวร์ระบบ System Software หมายถึงโปรแกรมที่ทำหน้าที่ประสานการทำงาน ติดต่อการทำงาน ระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ประยุกต์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ Software ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำหน้าที่ในการจัดการ ระบบ ดูแลรักษาเครื่อง การแปลภาษาระดับต่ำหรือระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่องเพื่อให้เครื่องอ่านได้เข้าใจ
1.1 ระบบปฏิบัติการ (Operating System)
1.2 ยูทิลิตี้ (Utility Program)
1.3 ดีไวซ์ไดเวอร์ (Device Driver หรือ Driver)
1.4 ตัวแปลภาษา (Language Translator) คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่แปลภาษาระดับต่ำหรือระดับสูงเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจว่าต้องการให้ทำอะไร
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับทำงานต่าง ตามที่ต้องการ
1.เฉพาะด้าน
2.ทั่วไป ทำได้หลายอย่าง ใประยุกต์ใช้กับหลายๆงานได้
โปรแกรมอรรถประโยชน์ ใช้เพื่อบำรุงรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ ช่วยสนับขนุน เพิ่ม หรือขยายขีดความสามารถของโปรแกรมที่ใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสุด ๆ ยูทิลิตี้แบ่งออกเป็นสองชนิดคือ โปรแกรมอรรถประโยชน์สำหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility program) และโปรแกรมอรรถประโยชน์อื่น ๆ (stand-alone utility program)
โปรแกรมอรรถประโยชน์สำหรับระบบปฏิบัติการ
- ประเภทการจัดการไฟล์ (file manager)
- ประเภทการถอนโปรแกรม (uninstaller)
- ประเภทการสแกนดิสก์ (disk scanner)
- ประเภทการจัดพื้นที่เก็บข้อมูล (disk defragmenter)
- ประเภทรักษาหน้าจอ (screen saver)
โปรแกรมอรรถประโยชน์อื่น ๆ
- โปรแกรมป้องกันไวรัส (anti-virus program)
- โปรแกรมไฟร์วอลล์ (firewall)
- โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (file compression utility)
โปรแกรมประเภทมัลแวร์ (malware) หรือโปรแกรมที่มีประสงค์ร้าย
- เวิร์ม นั้นจะมีลักษณะของการแพร่กระจายโดยไม่ต้องพึ่งพาหะ
- ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer Virus) คือ โปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ไวรัส นั้นจะสามารถแพร่กระจายได้ก็ต่อเมื่อมีพาหะนำพาไปเท่านั้น เช่น ทางเครือข่าย หรือทางแผ่นดิสก์ โดยไวรัสนั้นอาจฝังตัวอยู่กับแฟ้มข้อมูล และเครื่องคอมพิวเตอร์จะติดไวรัสเมื่อมีการเรียกใช้แฟ้มข้อมูลนั้น
ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์
-บูตเซกเตอร์ไวรัส บูตไวรัสจะติดต่อเข้าไปอยู่ส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่มาสเตอร์บูตเรคคอร์ด
-ไฟล์ไวรัส (file virus) คือไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ในแฟ้มข้อมูล
-หนอนอินเทอร์เน็ต (Worm) เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้ง หมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต กระจายและทำลาย เพิ่มจำนวน หนอนคอมพิวเตอร์สามารถทำลายข้อมูลและแบนด์วิทสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์รวมไปถึงการทำให้คอมพิวเตอร์หยุดทำงานอีกด้วย
-ม้าโทรจัน ลักลอบเก็บข้อมูล
-สปายแวร์ (spyware) หมายถึง ประเภทซอฟต์แวร์ที่ออกแบบเพื่อสังเกตการณ์หรือดักจับข้อมูล หรือควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยที่ผู้ใช้ไม่รับทราบว่าได้ติดตั้งเอาไว้ หรือผู้ใช้ไม่ยอมรับ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเพื่อสร้างผลประโยชน์แก่ผู้อื่น
-แอดแวร์ หมายถึงแพกเกจซอฟต์แวร์ใดๆ ที่สามารถทำงาน แสดง หรือ ดาวน์โหลดสื่อโฆษณาโดยอัตโนมัติไปยังคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการติดตั้งซอฟต์แวร์ชนิดนี้ไว้ หรือขณะที่โปรแกรมประยุกต์กำลังเรียกใช้ ซอฟต์แวร์โฆษณาบางประเภทเป็นซอฟต์แวร์สอดแนม (spyware) และถูกจัดว่าเป็นซอฟต์แวร์รุกรานภาวะส่วนตัว (privacy-invasive software)
ไฟร์วอลล์ คือซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในระบบเครือข่าย ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในระบบเครือข่าย หน้าที่ของไฟร์วอลล์คือเป็นตัวกรองข้อมูลสื่อสาร โดยการกำหนดกฎและระเบียบมาบังคับใช้โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลระบบเครือข่าย โดยความผิดพลาดของการปรับแต่งอาจส่งผลทำให้ไฟล์วอลล์มีช่องโหว่ และนำไปสู่สาเหตุของการโจรกรรมข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้ ไฟร์วอลล์ ในองค์กรต่างๆ นั้นได้มีการตั้งสิทธ์ ในการตรวจสอบและกลั่นกรองข้อมูล หลักๆ 2 ประเภท คือ
1. การตรวจสอบข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ซึ่งนับเป็นเขตที่เชื่อถือไม่ได้ ต้องมีการตรวจสอบและกลั่นกรองอย่างถี่ถ้วน
2. การตรวจสอบข้อมูลจาก อินทราเน็ต ซึ่งนับเป็นเขตที่เชื่อถือได้ การตรวจสอบข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในอินทราเน็ตนั้น ก็จะเบาบาง และ ค่อนข้างหละหลวม
ระบบผู้เชี่ยวชาญ เป็นส่วนหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์โดยอาศัยระบบฐานความรู้ (knowledge-based system) และกลไกการอนุมาน (inference engine) เป็นองค์ประกอบหลักในการทำงาน ระบบผู้เชี่ยวชาญจะใช้ฐานความรู้ในการเก็บค่าความจริงเฉพาะ และกฏสำหรับการตัดสินใจ ซึ่งใช้ฟัซซี่ลอจิกที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถตอบคำถามใกล้เคียงกับมนุษย์ได้
หลักเกณฑ์การตั้งไฟล์หรือโฟลเดอร์มีดังนี้
- ความยาวของชื่อไม่เกิน 256 ตัวอักษร ภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้
- ต้องไม่มีเครื่องหมายพิเศษเหล่านี้ \ ? : * “ < > |
- สามารถใช้ช่องว่าง (Blank) ได้แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง ดังนั้นควรใช้เครื่องหมาย _ (underscore) แทนจะดีกว่า
- จะตั้งชื่อซ้ำกับไฟล์หรือโฟลเดอร์ย่อยที่มีอยู่แล้วในโฟลเดอร์นั้นไม่ได้ แต่ถ้าสั่ง Copy แล้ว Paste ในโฟลเดอร์เดิม Windows จะเปลี่ยนชื่อไฟล์ที่ถูก Paste ใหม่โดยเติมคำว่า Copy of หน้าชื่อเดิมให้โดยอัตโนมัติ
ซอฟแวร์ลิขสิทธิ์ แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท โดยจะแบ่งตามลักษณะการคุ้มครอง ดังนี้
- Commercial ware คือ ซอฟต์แวร์ที่เน้นในเรื่องของการทำธุรกิจ ผู้ใช้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนำซอฟต์แวร์ดังกล่าวมาใช้ มีการคุ้มครองโดยลิขสิทธิ์อย่างเต็มที่
- Share ware คือ ซอฟต์แวร์ที่มีการเปิดให้ใช้ก่อน เมื่อมีผู้สนใจ เจ้าของจะทำการเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้มีการคุ้มครองลิขสิทธิ์อย่างเต็มที่
- Ad ware คือ โปรแกรมที่เปิดให้ใช้ฟรี มีการเก็บเงินเป็นบางครั้ง และมักจะมีโฆษณาในระหว่างการใช้เว็บเบราว์เซอร์ มีการคุ้มครองลิขสิทธิ์อย่างเต็มที่
- Free ware คือ โปรแกรมที่ให้ใช้ฟรีโดยที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆเลย แต่ผู้ใช้ต้องไม่นำโปรแกรมไปใช้ในเชิงธุรกิจ การคุ้มครองจะน้อย หรือมีการคุ้มครองเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
- Open source คือ โปรแกรมที่ทำออกมาให้ใช้ฟรี และผู้ใช้สามารถพัฒนาโปรแกรมได้อีกด้วย โดยการเขียนโปรแกรมเพิ่มหรือแก้ไข Opensourse ซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้ไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
ข้อดีของโปรแกรมแบบ OpenSource
1.Open Source เป็นโปรแกรมที่เปิดให้ใครก็ได้บนโลกนี้สามารถเข้ามาพัฒนาโปรแกรมได้ ดังนั้นจึงมีนักพัฒนาโปรแกรมหลายคน จึงทำให้โปรแกรมมีประสิทธิภาพสูง
2.Open Source ช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
ตัวอย่างโปรแกรมที่เป็น Open Source ก็อย่างเช่น PHP, My SQL, Star Office เป็นต้น นอกจากโปรแกรมแล้ว ยังมีระบบปฏิบัติการ Open Sorce อย่างระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนามาใช้ทดแทนวินโดวส์ของไมโครซอฟต์นั่นเอง แต่ต้องอ่านLicenseด้วยว่า เอาไปใช้ได้แค่ไหน เช่นเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่
การบำรุงรักษาเครื่อง
Disk Cleanup คือ โปรแกรม utility ที่ใช้บำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับ Windows ใช้ในการทำความสะอาด Harddisk ลบไฟล์ต่างๆ ที่ไม่จำเป็นออก เช่น ไฟล์ Temp, Bak รวมไปถึง ไฟล์อินเตอร์เน็ตต่างๆ ที่เก็บไว้ใน Cache ของ browser เพื่อให้ Harddisk ของเครื่องคอมพิวเตอร์มีเนื้อที่เหลือในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ทำได้เร็วมากขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่เหลือว่างสำหรับการจัดการข้อมูลต่างๆ (ควรเหลือเนื้อที่ว่างของ Harddisk ไว้อย่างน้อย 10% ของ Harddisk) ดังนั้น ควรทำ Disk Cleanup กับเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นประจำ
Defrag หรือ Defragmentation ถ้าแปลตรงตัว จะหมายถึง ทำให้ไม่มี (De-) ชิ้นส่วน (Fragment) มันคือกระบวนการหนึ่งในการจัดเรียงข้อมูลบนจานแม่เหล็กของฮาร์ดดิสก์ ที่อยู่แยกกันเป็นชิ้นๆ ทั่วจานแม่เหล็ก ให้อยู่เรียงกัน หรืออยู่ใกล้กันมากขึ้นอย่างเป็นระบบครับ